Tuesday, September 30, 2008

Chiang Mai 2003 Clip 1



  • The file just collapse at the end (in most clips) so, nothing is wrong with your player, ok?


_____________________

Monday, September 29, 2008

Chiang Mai 2003 Clip 3



  • Chiang Mai 2003 Clip 3
  • Most of the Files are badly damage and I'll keep uploading the rest of them
_________________

Monday, September 22, 2008

Interview the IMPgroup96 from TAG.in.th (Uncut Ver.)




----------------------------Question------------------------

- สวัสดีค่ะช่วยแนะนำตัวหน่อยคะ
ชื่อ A ครับ เป็นคนเริ่มต้นทำ Blog IMPgroup96 เพื่อเพื่อนๆ
ในรุ่นที่มีกันไม่ถึง 20 คน ขึ้นมาที่มีกันไม่ถึง 20 คน เพราะช่วงนั้น
โรงเรียนเปิดใหม่ คนน้อยเลยสนิทกันมากครับ
คบปะเจอะเจอกันมาก็ประมาณ 12 ปีแล้ว คนในกลุ่มก็ยังติดต่อ
ไปไหนมาไหนด้วยกันอยู่


- ปัจจุบันทำอะไรอยู่ ทำไมถึงหันมาเขียนบล็อกค่ะ บล็อกนี้เกี่ยวกับอะไร
เดิมทีทำงานอยู่บริษัทโฆษณา แต่ใช้เวลาเยอะมากกับงาน บล็อกก็เลย
ไม่มีคนอัพเดตหายไปพักนึง ตอนนี้ออกจากงานแล้ว พักเอาแรงอยู่ + อารมณ์ดีขึ้น
บล็อกเลยได้อัพเดตบ่อยขึ้นตามไปด้วยครับ


- บล็อกนี้เกี่ยวกับอะไร
ทำเพื่อเพื่อนๆ ใช้ติดต่อสื่อสารกับเพื่อนๆในรุ่น โดยมากก็ ใครมีเรื่องอะไร
ไปทำไรมา ก็จะมาแชร์กัน รูปภาพ นัดเที่ยว เรื่องวีรกรรมเด็ดๆ
โพสหาแก้คิดถึง เล่าข่าวคราวของคนในกลุ่ม
ตัวอย่าง BangSann, Party at Noon's place ,
Aom's Birthday Party ,Beauty and the Beast

โดยยึดหลักการ "ถึงเราจะไม่เห็นคุณ แต่อย่างน้อยคุณก็จะเห็นพวกเรา"
(we don't see you but at least you see us)


เดิมทีที่ IMP (international matriculation program) ที่ Saint John
จะเทียบเท่ากับ ม. ปลายบ้านเรา แต่ที่นี่เขาจะสอน ควบคู่หลักสูตรของ
แคนาดา กับ ไทย ไปพร้อมกันหรือง่ายๆ ก็คือ เหมือนเรียนนานาชาติ
แต่ยังมี วิชาของภาษาไทย สอนอยู่ด้วย เหมือนจบจาก 2 รร. ในเวลาเดียวกันครับ


- ทำไมถึงหันมาเขียนบล็อกค่ะ
ความจริงก็เขียนเวบพอเป็น ลงเรียนเสียเงินมาก็แล้ว ศึกษาเองก็แล้ว
แต่สุดท้ายมาตายรังที่ Blogger เพราะมัน อัพเดตง่ายมากๆ
ทำให้ยิ่งอยากจะอัพเดตทุกครั้ง ที่เวลามีเรื่องดีๆ อยากจะเล่าให้เพื่อนๆฟัง
เขียนที่ไหนก็ได้ ต่างประเทศ ในห้าง ผ่านโทรศัพท์ บ้านเพื่อน
เครื่องมือหรือโปรแกรมในเครื่องก็ไม่ต้องมี หากใช้โปรแกรมเขียนเวบ
ตามที่เรียนมา กว่าจะตัดช่อง กว่าจะจัดหน้าเพจ ไหนจะเบี้ยวอีก
คือความสะดวกกับความรวดเร็วมันต่างกันนะครับ

กาลเวลาผ่านไป หลายคนห่างหาย บ้างไปศึกษาต่อ บ้างย้ายบ้าน
ไปต่างประเทศ บางคนก็มีเพื่อนใหม่ จากที่คนในกลุ่มน้อยอยู่แล้ว
เลยยิ่งกลายเป็นไม่มี เลยเขียนบล็อกขึ้นมาเป็นศูนย์กลาง call center
ไว้สะหน่อย พวกคนตามตัวยาก จะได้ไม่หายไปเลย


- อยากจะถ่ายทอดความรู้สึกอะไร สุข เศร้า เหงา หรือรัก ผ่านบล็อกนี้คะ
ความจริงตั้งใจไว้ว่า ไม่ว่าเรื่องอะไร ถ้ามันเกี่ยวกับ เพื่อนๆในกลุ่มเรา
ผมก็จะเอามาลงหมด แล้วแต่จะใส่สี เติมแต่งให้มันสนุกขึ้น (แต่ความหมายจะคงเดิม)
แต่หลักๆเรื่องที่จะลงต้องอ่านแล้วสนุก

จะสุข ก็ต้องสุขจนคนอื่นอิจฉา
จะสนุก ก็ต้องสนุก ....แตก ....แตน
จะเศร้า ก็ต้องเศร้า คนไม่รู้จักยังร้องไห้

เรื่องความรัก ถ้าไม่ใช่ความรักจากครอบครัว หรือเพื่อนๆ ผมจะไม่อนุญาติให้นำมาลง
เพราะ ผ่านไปสักวันมันก็จะเป็นเรื่องเก่า จะให้คนใหม่ๆมาอ่านความรู้สึกเดิมๆ
ที่ถูกบันทึกไว้บนนี้ ผมคิดว่ามันไม่สมควร

ยกเว้น กรณีแต่งงาน อาจจะยอม แต่วี่แวว คนในกลุ่มยังไม่มีใครใกล้เคียงเลย 5555+


- เห็นบอกว่าเป็นบล็อกที่ใช้สื่อสารกันเฉพาะกลุ่ม ในกลุ่มมีกันกี่คนค่ะ
ช่วยแนะนำให้รู้จักกันหน่อย
ไม่เคยนับเป็นจริงเป็นจังเลยนะ แต่เดิมทีมี 46 คน ตอนเริ่มเรียน ใ
นปี 1996 ทยอยออกบ้าง กลับประเทศบ้าง ย้าย รร. เหลือทุกวันนี้ที่ยังติดต่อ
สนิทกันจริงๆ ประมาณ 11 คน
จะเขียนแนะนำแต่ละคนไว้แล้วในหน้า Profile แต่ก็ยังลงได้ไม่ครบ
ส่วนมากทุกคนจะอารมณ์ดี มีบุคคลิกประจำตัว

อย่างคนนึง จะผิวคล้ำ แต่จะได้แฟนตี๋ผิวขาวมาเป็นแฟนทุกคน
อย่างคนนึง พูดอะไรก็ต้องหาร 2 ผลลัพธ์ก็จะออกมาเป็นความจริงของเรื่องที่เล่า
อย่างคนนึง พอปิดประตูรถปั๊บ จะเล่าเรื่องไม่หยุดตลอดการเดินทาง จะหยุดก็เมื่อลงรถ
อย่างคนนึง ทุกคนจะชอบ อยากจะเป็นเพื่อนด้วย แต่ไม่มีใครยอมเอาเป็นแฟน

แต่เห็นโก๊ะๆ กันอย่างนี้ แต่จริงๆแต่ละคนนั้นเก่งๆกันข้างใน

คนนึง เป็น แชมป์เหรียญทอง นักร้องประสานเสียง โอลิมปิก แข่งกันทั่วโลก
คนนึง เป็น Dancer ให้ Rain - I'm coming
คนนึง เป็น แชมป์ Guitar Hero ที่อายุน้อยที่สุดในประเทศ (ไม่ใช่เกมส์นะ กีต้าร์จริงๆ)
คนนึง เป็น นักเรียนเกียรตินิยม เกรดเฉลี่ย 4.00 (แต่หน้าตาเหมือนยากูซ่า)


- เริ่มเขียนบล็อกนี้มานานหรือยังคะ แล้วใครเป็นคนเขียนหลัก
หรือว่าช่วยกันเขียนค่ะ
จำได้ว่าเริ่มเขียนเมื่อปลายๆปี 2006 ความจริงเริ่มแรกเขียนจาก
การจะนำเสนอเพื่อนคนนึงในกลุ่ม ให้เป็นที่รู้จักบนอินเตอร์เนต
เพราะด้วยบุคลิคที่แปลกและมีความคิด สร้างสรรค์ใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา
แต่ไม่ประสบความสำเร็จ (555..) HandsomeART

ก็เลยกลับลำ มาเขียนบล็อกให้คนเฉพาะกลุ่ม ให้เพื่อนตัวเองน่าจะดีกว่า

- แล้วใครเป็นคนเขียนหลัก
คนเขียนหลัก ความจริงมีผมคนเดียว ก็จะรวบรวม รูปภาพ เรื่องเล่า
ประวัติ เอาจากเพื่อนๆ ผ่านโทรศัพท์บ้าง อีเมลล์บ้าง โทรไปทวงรูปจาก
กล้องเพื่อนๆหลังงานปาร์ตี้ก็บ่อย หลังๆ เริ่มรู้กัน ใครไปทำอะไรมาก็
จะถ่ายรูปไว้ แล้วส่งมาให้ผม ผมก็นำเรื่องมาลงบล็อกอย่างที่เห็น

พึ่งมาเริ่มให้เพื่อนเป็น author กันเองเลย โดยใช้เป็นวิธีเขียนในอีเมลล์แล้ว
ส่งไปตามที่อยู่ Email ที่ผมให้ไป มันก็จะมาโพสขึ้นมาบน Blog เองเลย
แต่ก็ยังไม่ค่อยได้รับความนิยมจากเพื่อนๆเท่าไหร่
ส่วนมากเพื่อนๆชอบอ่าน มากกว่าชอบเขียน

- อยากจะแนะนำเรื่องราวของเพื่อนคนไหนเป็นพิเศษไหมค่ะ
มีเพื่อนคนนึงตอนนี้สำคัญมากครับ ชื่อ AOM ป่วยเป็นโรคมะเร็ง
ระยะสุดท้ายแล้ว เธอเองป่วยแต่ทางร่างกาย แต่สภาพจิตใจของเธอ
นั้นดีมาก ไม่เคยแสดงความอ่อนแอให้เพื่อนๆเห็น
เธอยังหัวเราะร่าเริง โทรศัพท์ทักเพื่อนๆเป็นปกติ

ผมอยากให้ทุกคนที่ได้อ่านเรื่องของออม ไม่ว่าคนรู้จัก หรือคนไม่รู้จัก
ช่วยให้กำลังใจเธอ หรือแค่พูดว่าให้เธอ หายป่วยเร็วๆ เผื่อมันช่วยให้เธอ
มีแรงใจสู้กับโรคร้ายนี้ต่อ ถึงแม้เธอจะไม่เคยถามขอกำลังใจจากเพื่อนๆ
แต่พวกเราก็อยากทำให้เธอ ก่อนที่มันจะไม่มีโอกาส



- คิดว่าการเขียนเรื่องราวนี้ถ่ายทอดออกไปจะสามารถช่วยคนอื่นๆ
ในสังคมได้อย่างไรคะ
ฮืม ..... สารภาพว่าไม่คิดถึงขั้นนั้นนะครับ เพราะความตั้งใจจริงเป็นแค่
เพื่อคนเฉพาะกลุ่มในทีแรก

แต่สุดท้ายพอได้เล่า เรื่องของ AOM miracle ออกไป ผู้คนให้ความสนใจ
และเป็นห่วงผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้มาก อีเมลล์กลับเข้ามาให้กำลังใจ
กันเยอะแยะ เจ้าตัวยังไม่รู้เรื่อง เอาไปเล่าให้ฟัง ถึงกับน้ำตาไหล
ไม่รู้ว่ามีคนเป็นห่วงมากขนาดนี้้

มันทำให้ผู้คน ที่มีคนรอบข้างป่วยเป็นโรคมะเร็ง เข้าใจมากขึ้น
ว่าค่ายาราคาแพง ที่เสียไปทุกๆวัน มันสู้ไม่ได้เลย กับกำลังใจที่ได้จาก
คนรอบข้าง มันทำให้รู้สึกดีขึ้นได้นานกว่า ระยะเวลาที่ยามันออกฤทธิ์สะอีก

- คิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งคืออะไรคะ
ช่วยให้ความรู้แก่เพื่อนผู้อ่านอยู่ตอนนี้หน่อยคะ
ตามความเห็นผม โรคมะเร็งเป็นโรคกวนประสาทครับ เวลาไม่รู้ว่าเป็น
ก็จะไม่แสดงอาการอะไร แต่พอรู้จะรักษา มันก็จะไม่ยอมหาย,
จะรักษาให้มันคงตัว มันก็ดันกระจาย, ค่ายาก็แพง วิธีรักษาก็ทรมาน
คนในครอบครัวก็เป็นทุกข์

ตามประสบการณ์ที่ รู้จักกับออมตอนที่พบว่าเป็นมะ เร็ง ระยะสุดท้าย(อีกแล้ว)
สิ่งที่ออมต้องการคือ ความสุขจากคนรอบข้างครับ ความสบายใจ
ยิ้มแย้มให้เธอ ไม่ต้องดูแล เทคแคร์กันให้โอเวอร์ เหมือนว่าเธอ
จะจากไปในเร็ววันนี้้ เธออยากอยู่เหมือนปกติเมื่อก่อน แต่เจอเพื่อนๆ
กับคนรู้จักเธอให้บ่อยขึ้น การนำเรื่องเล่าจากเพื่อนๆ หรือชีวิตประจำวัน
มาเล่าให้ออมฟัง ให้เธอได้หัวเราะ มันทำให้เธออยากจะอยู่ด้วยกันนานๆ
มามีความสุขกันพร้อมหน้าอย่างนี้อีก

ค่ายาตอนนี้เป็นสิ่งที่จะทำ ให้เธอเป็นลมครับ 55555+ ....
ด้วยรักและผูกพัน - BIRD

http://www.imeem.com/people/CYMp-4P/music/bGFJU0Tf/bird/

- การแพทย์และความดูแลเอาใจใส่จากสถานพยาบาลในปัจจุบัน
พอเพียงกับความต้องการของผู้ป่วยไหม
พูดตามความจริงว่า จริงๆมันก็เพรียบพร้อมนะครับ การแพทย์ปัจจุบัน
ที่จะทำให้คนมีชีวิตให้ยาวขึ้น แต่ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับ "กำลังเงิน"
ด้วย การรักษาโรคมะเร็งอาจจะต้องเข้าออก โรงพยาบาลเป็น ปีๆ
กันเลยทีเดียว มันไม่เหมือนโรคหวัด ที่หาหมอ ฉีดยาเข็มเดียวแล้วก็รอมันหาย

Case เพื่อนผมที่เจอมา หมดตอนนี้ไปกว่า 10 ล้าน แต่หมอก็ยังไม่รู้ว่า
จะรักษายังไง เพราะไม่รู้ว่าเป็นอะไร...(??)

มะเร็งมีหลายรูปแบบ เป็นได้เกือบหมดทุกอวัยวะภายใน และล้วนแต่ร้ายแรง
การรักษานั้น ส่วนมากทรมานและใช้เวลา

การนอนในโรงพยาบาลนานๆ ผมคิดว่า นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ป่วย
อยากจะลาโลกมากที่สุดครับ


- จากที่อ่านบทความ ที่เขียนว่า ออมไม่เที่ยวกลางคืน ไม่สูบบุหรี่
ไม่นอนดึก แล้วสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็
งนี่มาจากอะไรหรือคะ
มิอาจทราบได้ครับ เธอจู่ๆมาวันนึง ก็เกิดเลือดไหลออกมาจำนวนมาก
ทางจมูกแล้วไม่ยอมหยุด จึงต้องส่ง โรงพยายาบาล รักษาตอนนี้
ยังไงมันก็ไม่หาย มีแต่ยุบตัวลง แต่ก็กลับมากำเริบได้อยู่เป็นพักๆ
หมอเก่งๆตามเส้นสายทางบ้านของเธอจะหามาได้ ก็บอกไม่รู้จะรักษายังไง
อาจจะต้องทานยาประคองไปอย่างนี้ตลอดชีวิต ซึ่งเธอเองก็รู้ตัวเธอดีครับ

ถ้าพูดตามทางธรรมะ ก็อาจจะเรียกว่า เวรกรรม ครับ

- มะเร็งถือเป็นโรคร้ายอันดับต้นๆ ของคนไทย ในฐานะที่มีคนใกล้ชิด
กำลังต่อสู
้กับโรคนี้อยู่ พอจะช่วยแนะนำวิธีการป้องกัน หรือวิธีการรักษา
ตัวเองให้ห่
างไกลจากมะเร็งไหมค่ะ
อารมณ์ดีครับ อย่าเครียดให้มากโดยไม่จำเป็น และอย่าอ่านอะไรเยอะๆ


- อะไรคือสิ่งที่ทำให้ทุกคนมารวมกันภายในบล็อกนี้ได้คะ
ความเป็นเพื่อนและความคิดถึงครับ ต่างคนต่างอยากรู้ว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง
ก็เลยกลับเข้ามาอ่านกันอยู่ประจำ เพราะถ้าหากพลาดนัดสำคัญ
อาจจะต้องมานั่งเหงาตอนมาเจอรูป ปาร์ตี้ โหด มันส์ ฮา เอาทีหลังได้

- กลัวไหม ถ้าวันหนึ่งเพื่อนที่เรารักต้องจากเราไป จะทำเช่นไร
ชีวิตที่สมบูรณ์​ วงจรด่านสุดท้ายก็คือ ความตายครับ
หากไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็จะจำเอาแต่ส่วนที่ดีๆ ของคนๆนั้นเอาไว้ครับ

- เชื่อในปาฏิหารย์ ความหวัง ความรัก และความห่วงใยไหม
ถ้าทำอะไรเพื่อเพื่อนได้ จะทำอะไร
จะขอเจ็บแทน แบบ clash ก็คงไม่ได้
ผมคิดว่า ชีวิตของแต่ละคน มีอะไรพิเศษที่ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
เรื่องที่ดี กับ เรื่องไม่ดี ก็อาจจะเกิดขึ้นสลับกันบ้าง (แต่อยากให้อันแรกเกิดขึ้นบ่อยๆ)
สมหวัง ผิดหว้ง พบรัก อกหัก รักคุด เป็นเรื่องปกติ

ทำดีกับคนในครอบครัว เพื่อนๆ หรือคนที่รู้จักให้มากที่สุด
ปาฎิหารย์ในชีวิตมันก็อาจจะเกิดขึ้นบ้างในชีวิต....สักครั้ง

- จะมีวันที่หยุดเลิกเขียนบล็อกนี้ไหม เพราะอะไร
น่าจะไม่ใช่อนาคตอันใกล้นี้นะครับ ชีวิตยังอีกยาวไกล ยังมีเรื่องให้เขียนอีกแยะ
หากอยากจะหยุดเลิกเขียนบล็อกนี้ ก็อาจจะเป็นตอนที่ไม่มีใคร
สนใจจะอ่านแล้วก็ได้

- งั้นสุดท้ายนี้อยากฝากอะไรถึงเพื่อนๆ ชาว Tag in Thai บ้างคะ
มีเรื่องราวอะไรดีๆ ก็เขียนบันทึกไว้เถอะครับ ถึงมันจะไม่มีความสำคัญ
อะไรกับคุณ แต่มันก็อาจจะเป็นประโยชน์ในวันข้างหน้า
หรือมันอาจจะเป็นประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังได้อ่านก็ได้

สุดท้ายนี้ ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย จงดลบัลดาลให้ท่าน
และครอบครัว ชาว Tag in Thai จงประสบแต่ความสุข ความเจริญ
และความสำเร็จก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ตลอดกาลนาน เทอญญญญ
สาธุ.............


http://impgroup96.blogspot.com

http://www.tag.in.th/interview?show=impgroup96


Tuesday, September 16, 2008

Someone has a Handsome Face's block

  • OH..My Goddd !!! He looks exactly the "SAME" in every Pictures!!!
From Bomb's Handsome Face block


From Bomb's Handsome Face block

_______________________

Shabu shabu suki at Noon's Place

  • These are what I had at Noon's house when she called out for dinner party
  • I've never say "No" when people called out for FREE meal.
  • ....and I can't remember whose leg is that but for sure, she was going to have a big pot of Shabu suki.

Monday, September 8, 2008

Nike Space by ARTmoney

  • A, ART, PAT, Shane, went out for bowling at Esplanade on August 2008.
  • PAT is (now) a party girl, she felt like
  • "why can't we have some dance instead of this Boring Bowling?" (but actually it was her idea to come here (-.-)
  • A is wearing a Sandal, just only the thing on your feet, they will judge you differently from the people who's wearing a SHOE.
  • Art-ma-ni came up with an idea and finally got me inside the club but still wearing that Cheap Sandal.
  • It called the "Nike Space", The Shoe was perfect but a little slippery which is quite good with dancing.
  • The sign said "No Sandals are allowed inside the club" but ..uhh...I just did it.
Low (Travis Barker Remix) - Flo Rida
____________________

Wednesday, September 3, 2008

Prom Night in 1999


  • I can't tell much of the story of this Prom night coz I wasn't there
  • Notice closely, you'll see Oct in an original form.
  • whoever appears in this image, plz kindly tell us what happened that night?
  • Was it your First prom??
Credit: Oct@hi5
___________________