Wednesday, October 6, 2010

ทำไม ไม่ไปทองหล่อ ?



เรื่องของเรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อคืน
ไปเที่ยวกลางคืน ณ ผับที่เปิดยันเช้าเป็นที่นิยมของวัยรุ่น 
ผู้คนเต้นกันสนุกสนาน สาวสวย หนุ่มหล่อ แต่งตัวดี มีอยู่ในระยะสายตา มองเห็นได้ตลอดทุกๆ 2 วินาที
ผู้คนกินเหล้า สูบบุหรี่ เบียดเสียดกันในที่แออัด แทบไม่ต่างกับ รถเมลล์ในตอนเช้า แต่ทุกคนกลับดูสนุกสนานกันหลุดโลก หวนกลับมามอง เข้าไปในใจตัวเอง ทำไมผมไม่รู้สึกสนุกสนานเหมือนทุกคน ที่ยืนย่ำเท้าตามจังหวะเพลงกันอยู่นี้วะ

มันทำให้ผมเข้าใจ ว่าทำไม บางคนถึงกลัวสัปปะรด ทำไมบางคนถึงกลัวที่จะใส่กางเกงสีแดง 
ทำไมบางคนถึงเกลียดจิ้้งจก ทำไมบางคนถึงชอบหาความสุขนอกบ้านมากกว่าครอบครัวของตัวเอง

มันอาจจะเป็นเรื่องราวในอดีต ประสบการณ์วัยเด็ก ทำให้ใครบางคนเกลียดหรือกลัวอะไรอย่างที่คนอื่นเขาไม่เข้าใจ
ส่วนตัว ผมไม่เคยคิดว่าเรื่องพวกนี้ มันจะมีอิทธิพลต่อความรู้สึกที่ไม่มีเหตุผลพวกนี้
แต่มันกลับเกิดขึ้นกับตัวผมเอง..... ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเป้นอย่างนี้

ย้อนกลับไปสักตอนผมอายุสัก 20 ผมพึ่งจบ high school มาจากอเมริกา
ตอนนั้นผมเป็นหนุ่มผมยาว มั่นใจในตัวเอง ร่าเริง คุยเยอะเป็นปกติเหมือนคนอื่นในวัยเดียวกัน
ช่วงนั้นผมเคยใช้ยาเสพติดอยู่ประเภทนึง เขาว่ากันว่ามันทำให้เกิดอาการหลอนประสาท
ผมเกิดอาการหลอนอย่างมากในช่วงนั้น จนมันทำให้ผมต้องยอมรับสารภาพกับที่บ้าน
หลังจากนั้น อะไรหลายๆอย่างในชีวิตผมก็เปลี่ยนไป ผมโดนบังคับให้เปลี่ยนตัวเอง
ผมตัดผมสั้น ใส่แว่นสายตาสั้น สิววัยรุ่นตามผุดขึ้นมาเป้นชุดใหญ่บนหน้าตาผม ซึ่งน่าจะเกิดมาจากความเครียด
เสื้อผ้าที่ผมเคยมีมันก็ใส่ไม่ได้ เพราะมันเข้ากันไม่ได้เลยกับคนผมสั้นใส่แว่น มีสิวตามแก้ม
ผมไม่เคยชอบที่เห็นตัวเองในกระจกเป็นแบบนี้..... ผมไม่เคยชอบ

ผมใช้ชีวิตที่ทุกคนเรียกว่าหลอนประสาทอยู่ทุกคืนกว่า 3 เดือน ผมถูกกักบริเวณ ห้ามพบเพื่อน ห้ามโทรศัพท์
ทำไรอะไรก็โดนด่าว่าผิด ตกกลางคืนก็นอนไม่ได้ ผมเริ่มแยกแยะไม่ออกว่าอะไรคือตัวผม อะไรคิอคนอื่น
จนผมโดนบังคับให้ไปสมัครเรียนมหาลัย และผมว่าทุกอย่างที่ทำให้ผมมีความรุ้สึกอย่างนี้ในใจ มันเริ่มขึ้นที่ตรงนี้ละ

ผมโดนบังคับให้ไปสมัครเรียนที่มหาลัยเอกชนแห่งนึง โดยมีคุณพ่อคุณแม่ตามไปด้วย
หลังจากที่ไม่ได้ออกบ้านมาพบผู้คนเลยมาหลายเดือน
ตั้งแต่ก้าวแรกที่ผมเดินเข้าไปอยู่ในกลุ่มเด็กนักเรียนมหาลัยรุ่นๆเดียวกับผม ผมเริ่มรู้สึก 
ทุกคนมองผมแปลกๆ ผมแอบได้ยินคนใกล้ๆแอบล้อบางอย่างบนตัวผม ผมเห็นคนมองผมแล้วหันหน้าไปคุยกับเพื่อนแล้วหัวเราะ ผมอาจจะคิดไปเอง ถ้าเขาไม่หัวเราะกันแล้ว หันมาชี้นิ้วมาทางผม แล้วปิดปากขำซ้ำกันอีกรอบ บนเวทีจัดกิจกรรมอะไรบางอย่าง คนถือไมค์บนเวทีพูดบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องลูกแหง๋ ผมอึดอัดและอาย ผมเข้าไปยื่นใบสมัคร คนในห้องประชุม ไม่มีใครมากับพ่อแม่สักคน อาจาร์ยในห้องประชุม พูดออกไมค์บอกว่า "ผู้ปกตรอง ให้รอด้านนอกก่อนนะคะ" ทุกคนในห้องนั้นหันมามองผม แล้วพ่อผมก็พาแม่ออกไปรอข้างนอก
มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน และสำหรับบางคนมันอาจจะไม่ใช่เรื่องแปลก.... ใช่ มันไม่ใช่เรื่องแปลก... สำหรับบางคน

สุดท้ายผมไม่ได้เรียนที่มหาลัยนั้น เพราะผมคงทนเองในสภาพตัวตลกนั่งเรียนกับคนพวกนั้นไม่ได้
และคุณพ่อผมเองก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเขาอาจจะเข้าใจ ผมย้ายไปสมัครสอบที่มหาลัยอินเตอร์อีกแห่ง
ผมสอบผ่าน ได้เข้าเรียน ในสภาพผมสั้นใส่แว่น สิวเต็มแก้ม หวาดกลัวคนรอบข้างว่าจะล้อเลียน 
อะไรบางอย่างที่ผมเป้น วิธีที่ผู้คนในนั้นปฏิบัติกับผม นั้นไม่ได้ต่างกับที่แรกเลย ผู้คนยังแอบล้อเลียน
และหัวเราะผมกันลับหลัง บางคนเข้ามาคุยกับผมเพราะเพื่อแค่ที่จะล้อเลียนพฤติกรรมบางอย่างที่ผมทำ 
แล้วกลับไปแอบขำกันกับเพื่อนในกลุุ่มของเขา ไม่ยกเว้นแม้แต่จะผู้หญิงหรือผู้ชาย 
ผมมีเพื่อนเก่าสมัยม.ปลายเข้ามาเรียนอยู่ด้วย ผมเลยหันหาพวกเขา
แต่มันก็ไม่ได้ตลอดเวลา บางครั้งเขาก็ต้องปรับตัวตามสภาพสังคม และมีเพื่อนใหม่ 
และหลายครั้งผมรุ้สึกว่าเขาอายที่ต้องนั่งคุยกับผม ผมได้เพื่อนใหม่เข้ามาบ้าง 
แต่หลายคนก็ยังแอบเอาเรื่องผมไปขำกับกลุ่มเพื่อนสนิทเขา
ผมไม่ชอบมองตัวเองในกระจกในสภาพนั้น ผมกลัวในเรื่องที่ผมคิด 
ผมไม่อยากเป็นตัวตลก และทุกคืนนั้นผมนอนไม่หลับ

10 ปีผ่านไป 
ทุกวั้นนี้ ทุกครั้งที่เพื่อนๆผมชวนไปเที่ยวในผับ หรือสถานที่ของวัยรุ่นประมาณ 20-30 
ผมไม่เคยรู้สึกว่ามันสนุกอีกเลย ผมรู้สึกว่า ผมไม่ใช่ส่วนนึงของที่นั่น ผมรู้สึกด้อย
กว่าทุกคนที่อยู่ในนั้น ถึงแม้เพื่อนผมบางคนจะกระซิบบอกว่าผมนั้นเจ๋งขนาดไหน 
เทียบกับคนวัยขนาดนั้น ส่วนตัวผมเข้าใจตัวเองดีว่า ผมเป็นคนที่มีเหตุผล 
และไม่เคยให้อารมณ์มาช่วยคิด แต่ให้ตายผมก็ยังรู้สึกด้อยและไม่เคยเทียบเคียงกับ
คนวัยรุ่นหน้าตาดีพวกนั้นเลย ผมไม่เคยสนุกกับการเข้าไปในที่เที่ยวย่าน 
ทองหล่อ เอกมัย RCA หรือสุขุมวิท ผมไม่เคยชอบการเข้าไปยืนเบียดกับสาวชุดแซกซ์ 
ยกแบล็คดื่ม ยืนเต้นในพื้นที่ของตัวเองที่น้อยกว่า 1 ตารางเมตร 
หรือสาวขาสั้นหน้าอกโต ที่เอามาเบียดผมขณะที่พยายามเดินเข้าห้องน้ำ 
ที่คิวยาวเหมือนแจกยาฟรี ผมไม่เคยสนุกกับมันเลย...

ผมกลับสนุกและเอนจอย กับการไปเที่ยวในที่ที่ของคนแก่ คอกเทลล์เล้าจน์ ผับดริ้ง สาวนั่งบาร์
สถานบันเทิงอันต้องห้าม ที่วัยรุ่นไม่ชอบย่างกรายเข้าไป
ผมโดนเพื่อนว่าหลายๆครั้ง ว่าทำไมไปสิ้นเปลืองเงินกับอบายมุขเหล่านั้น 
มันไม่ดี มันไม่ถูก มันไม่ควร ไปทองหล่อ เอกมัย นั่งเล่น สถานที่ดังๆขณะนั้นสะหยังดีกว่า

"ทำไมต้องไปทองหล่อ? " 
"มันมันส์กว่าเยอะ"

ผมไม่เคยให้คำอธิบายที่ดีพอได้ "ว่าทำไม" เพราะผมก็ไม่รุ้ "ว่าทำไม" มันแค่ไม่ชอบ 
ผมก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง เพราะผมก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะกลายมาเป็นแบบนี้เหมือนกัน

No comments: