Facebook กับ MySpace กำลังทำข้อตกลงกัน จริงหรือ?

Facebook กับ MySpace กำลังทำข้อตกลงกัน จริงหรือ?

เป็นข่าวที่ไม่คาดคิดว่า 2 คู่แข่ง Social Network จะคุยข้อเสนอตกลง ทำสัญญาอะไรกันได้ เพราะการแข่งขันที่ผ่านนั้นคือจำนวน users จำนวนมหาศาล แล้วจู่ๆวันนึงจะมาบอกว่า จับมือร่วมทำข้อตกลงเพื่อผลประโยชน์เพื่อให้ users ได้รับความสะดวกสบายในการใช้มากยิ่งขึ้น ฟังดูไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่นั่นมันเป็นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว.....

"ข้อเสนอนี้ จะช่วยให้ผู้ใข้สามารถแชร์ MySpace Music หรือ MySpace Video ขึ้นไปบน Facebook ได้ หรือแม้แต่การล็อคอินเข้าสู่เวบไซด์อื่นๆโดยใช้ ใช้ Facebook ID" กล่าวโดย  Emma Barnet (Editor ที่ไหนไม่รู้แต่เป็นฝรั่ง)

ทางด้านFacebook เองก็กล่าวว่า จะเป็นการดีหากเราได้ content ของเวบอื่นๆ มาอยู่บนเวบของเรา ซึ่งที่จริงๆเราก็มีอยู่แล้ว แต่ถ้าหาก content ของ MySpace ไม่ว่าจะเป็นเพลงหรือว่าวิดีโอ เข้ามาอยู่บนเวบของเราด้วย น่าจะยิ่งทำให้ users ของเรานั้นได้ความสะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น 

และ MySpace เอง ก็ให้ข้อมูลกับทางนักข่าวว่า ทาง MySpace นั้นได้กำลังจะทำข้อตกลงกับ Facebook จริง แต่เราก็ยังพยายามทำงานร่วมกับเวบไซด์อื่นๆ แบบเดียวกันนี้อยู่อีกหลายแห่งด้วย

ดูเหมือนทั้ง 2 ที่นั้นเองก็ยังไม่ค่อยจะยอมให้ข้อมูลว่า จริงๆแล้วใครยอมใครกันแน่จากคำให้สัมภาษณ์ แต่ความเป็นจริงแล้ว Facebook นั้นได้เปรียบกว่าตรงที่มี Facebook Connect API:  ที่สามารถ นำ Facebook​ ID ไปล็อคอินเข้าที่เวบไซด์ไหนก็ได้บนอินเตอเนตกว่าอีก 15,000 เวบไซด์ แต่สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญส่วนมากนั้นให้ความสนใจกลับเป็นเรื่องของ ขนาดของเวบไซด์ทั้งสองแห่งนั้น ที่มีขนาดใหญ่มากและข้อมูลมหาศาลที่ไหลหมุนเวียนอยู่เซิฟเวอร์ของแต่ละวัน หากนำมาแชร์กันอีก เซิฟเวอร์ชนิดไหนถึงจะรับมือกับข้อมูลมหาศาลขนาดนั้นได้

การที่ Myspace จะได้ Facebook มาเป็น partner ด้วยนั้นกลายเป็นข้อดีให้กับทาง MySpace เองสะมากกว่า เพราะตัว MySpace นั้นได้พยายามหนีจากคำว่า Social Network site (ซึ่ง Facebook นั้นไม่ใช่เพราะมีเกมส์ให้เล่นด้วย) และต้องการจะทำให้เวบไซด์ของตนเองนั้นมีข้อมูลที่แตกต่างออกไป มากว่าการเชื่อมต่อจำนวนคนให้มากเข้าไว้เท่านั้น

ในข้อตกลงนี้ Facebook จะเป็นผู้ที่ให้พื้นที่บนเวบไซด์ของตนเอง และ MySpace จะเป็นฝ่ายที่นำ Content ที่เป็นเพลงหรือวิดีโอเข้ามาแชร์ใน Facebook เอง ซึ่งคำว่า MySpace  นั้นแปลว่า "พื้นที่ของฉัน" แต่กลับทำหน้าที่สลับกันสะอย่างงั้น